ลูกท้องอืดแต่ไม่รู้สาเหตุ บางทีอาจเกิดจากชงนมผงไม่ถูกวิธี

พ่อแม่ผู้ปกครองต่างคุ้นเคยกับการชงนม ด้วยวิธีตักนมผงลงขวดก่อนแล้วใส่น้ำตามลงไป ซึ่งการชงนมแบบนี้ สามารถทำได้แต่ก็ไม่ได้ถูกต้องเสียทีเดียว เพราะเมื่อใส่นมลงไปก่อน ปริมาณน้ำก็จะน้อยกว่าความเป็นจริง เมื่อลูกกินไปจึงได้รับนมในปริมาณที่เข้มข้น จนอาจเกิดอาการท้องผูก

อย่าใช้น้ำร้อนชงนมผง ต้องใช้น้ำต้มสุกที่วางจนเย็นเท่ากับอุณหภูมิห้อง

เมื่อซื้อนม https://www.dumex.co.th/articles/Pages/0_6months/Child%20Development/choices-baby-imf.aspx มาแล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างคือห้ามใช้น้ำร้อนชงนม เพราะมันทำให้นมจับตัวกันเป็นก้อนเหนียวละลายในน้ำได้ยาก และยังทำลายสารอาหารบางอย่าง วิธีที่เหมาะสมคือใช้น้ำต้มสุกที่ต้องบรรจุในภาชนะที่ทนความร้อนได้

มิเช่นนั้น จะเกิดสาร BPA ในนมผงที่เกิดอันตรายกับเด็กทารก แต่ถ้าไม่มีเวลา จำเป็นต้องใช้น้ำร้อน ก็ควรเอามาผสมกับน้ำต้มสุก ในอัตรา 1 : 3 น้ำร้อน 1 ส่วน และน้ำต้มสุก 3 ส่วน เพียงเท่านี้ ก็จะได้น้ำชงนมลูกที่อุ่นกำลังพอดี ซึ่งขั้นตอนนี้ให้ดูปริมาณน้ำ กับการตวงนมที่เหมาะสมได้ที่ข้างกระป๋อง

เมื่อชงนมผงเสร็จแล้ว อย่าเขย่าแรงจนนมพุ่งออกจากจุก แต่ให้หมุนวนเอา

ผู้ปกครองหลายท่านชินกับการการเขย่าขวดนมผงที่ชงเสร็จขึ้น-ลงแรงๆ นี่ถือเป็นสาเหตุที่เกิดฟองอากาศจำนวนมาก การที่ลูกดูดฟองอากาศเข้าไป แก๊สในเพาะอาหารก็ตามมาจนท้องอืดได้ ส่วนวิธีแก้อาการท้องอืดของลูก ก็ให้จับลูกเรอหลังกินนมเสร็จ และอย่าเขย่าขวดนมแรง ๆ ให้เปลี่ยนมาใช้วิธีหมุนวนขวดนมไปรอบ ๆ เพื่อไม่ให้เกิดฟองอากาศในขวดนม

ควรชงนมผงให้เพียงพอกับที่ลูกกิน

ในกรณีที่ลูกกินนมเหลือก็เก็บไว้กินต่อได้ แต่ต้องเก็บในอุณหภูมิปกติ และไม่ควรเก็บเกิน 1 ชั่วโมง หากเกินกว่านี้อย่าให้ลูกกิน เพราะอาจท้องอืด หรืออาจทำให้ลูกท้องเสียได้เลย ที่สำคัญ หากชงนมให้ลูกกินเกินความต้องการ ก็อาจเกิดภาวะโอเวอร์ฟีดดิ้ง(overfeeding) หรือได้รับนมเกินความจำเป็นได้เช่นกัน ซึ่งวิธีกคำนวณปริมาณนมที่ลูกต้องการในแต่ละมื้อนั้น ก็จะช่วยลดอาการแหวะนม อ้วกแตกในเด็กทารกที่มีอายุ 0-3 เดือนได้.